หลวงพ่อจั่น ท่านเป็นพระเกจิ ยุคเดียวกับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคันธ์ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ
หลวงพ่อจั่น ยังเป็นอาจารย์ของ “หลวงพ่อทบ วัดชนแดน” พระเกจิที่คนทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ความนับถือ หลวงพ่อทบ ท่านชำนาญวิชากสิณเป็นพิเศษ ใครที่เคยเห็นภาพ หลวงพ่อทบ จะเห็นว่าตาของท่านเสียข้างหนึ่ง เล่ากันว่าท่านเล่นกสิณไฟ มากเกินไป ทำให้ตาเริ่มฝ้าฟางลง นอกจากนี้หลวงพ่อทบ ยังพกเหรียญ หลวงพ่อจั่น ติดตัวตลอด
จะเห็นได้ว่าหลวงพ่อทบท่านแขวนเหรียญหล่อรุ่นแรกของหลวงพ่อจั่น วัดบางมอญติดตัวท่านตลอด จนเหรียญนั้นสึกไปมากและหลวงพ่อทบท่านนับถือหลวงพ่อจั่นมากที่เดียว…
ไม่อย่างนั้นหลวงพ่อทบคงไม่เอาเหรียญของหลวงพ่อจั่นมาแขวนคอแน่นอนครับ… ชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน หลวงพ่อทบ ท่านแขวนเหรียญหล่อหลวงพ่อจั่นติดตัว หลวงพ่อทบ ท่านเองก็ไม่ธรรมดา เอาเหรียญหลวงพ่อจั่นขึ้นคอ ท่านต้องมีนัยสำคัญแน่นอน
ท่านเกิดที่ตำบลบางมอญ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ปีกุน พ.ศ.2380 จ.ศ.1199 ร.ศ.56 ค.ศ.1837-8 โดยบิดาของท่านชื่อ ทบ โยมมารดา ชื่อ ทรัพย์ การอุปสมบท ครั้นเมื่ออายุ 23 ปี (พ.ศ.2403) อุปสมบทที่วัดบางมอญ โดยมีพระอธิการอินทร์ วัดตาลเอน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาต่าย วัดระฆัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์จีน วัดบางมอญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชได้รับฉายาว่า “จันทสร”
หลวงพ่อจั่น ได้รับการขนานนามว่าเป็นพระผู้คงแก่เรียน และได้รับการยกย่องว่าทรงวิทยาคุณในทางไสยาศาสตร์อย่างแท้จริง คนสมัยเก่าของชาวอำเภอมหาราช ที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นศิษย์ของหลวงพ่อจั่น อันมี กำนันบรรจง เฉลยวาเรศ กำนันตำบลบางนา อำเภอมหาราช อยุธยา และคุณคำรณ ขำคล้อยซึ่งทั้งสองคนเล่าให้ฟังว่า
แต่ก่อนมีนักเลงทุ่งมหาราช ซึ่งไม่ชอบยอมแพ้ใครง่ายๆ ถึงแม้แต่นักเลงถิ่นอื่นยังขยาดหวาดผวา ไม่กล้ามาราวีหรือต่อกรด้วย นักเลงสมัยก่อนมีเรื่องขัดใจกันมักจะนัดดวลกับแบบตัวต่อตัว หรือแบบตะลุมบอนกัน พอฝ่ายหนึ่งหัวร้างข้างแตกย่อมเป็นฝ่ายแพ้ อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชนะจะไม่ซ้ำเติมและไม่ปฏิบัติการทารุณต่อ แต่กลับช่วยเหลือทำให้เกิดความเข้าใจและนับถือในอาวุโสของผู้ชนะ ยังยอมท่านเลื่อมใสหลวงพ่อจั่น
เหรียญของหลวงพ่อจั่น นั้นดีทางเขี้ยวงา มีประสบการณ์มาก และคนที่แขวนเหรียญหลวงพ่อจะถูกลองของเกือบทุกคน จนเป็นที่โจษขานกันไปทั่ว และเหรียญหลวงพ่อจั่นมาฮือฮากันมากก็เมื่อมีรถชนกันวินาศบนเส้นทางอ่างทอง-ท่าเรือ ตายแทบไม่เหลือหลอ มีรอดเพียงเด็กชายเล็กๆ คนเดียวเท่านั้น ในคอแขวนเหรียญหลวงพ่อจั่นเพียงเหรียญเดียว
เหรียญหลวงพ่อจั่นควายไม่เหยียบ มีอยู่ครั้งหนึ่งเจ้าของต้อนควายไปลงกินน้ำ ควายได้เดินตามกันเป็นฝูง ปรากฏว่า เมื่อควายเดินไปถึงตรงนั้นจะยกเท้าข้ามทุกตัว เป็นที่ผิดสังเกตของเจ้าของควาย จึงก้มลงพิจารณาดูว่า ตรงนั้นมีอะไร ผลปรากฏว่า มีเหรียญหลวงพ่อจมตมอยู่เหรียญหนึ่ง
กระทั่งถึงวันอาทิตย์แรม 3 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 ท่านได้ถึงกาลมรณภาพ นับสิริอายุครบ 90 ปี (67 พรรษา) บริบูรณ์ นับได้ว่าชาวอำเภอมหาราชได้สูญเสียพระเถระพระอาจารย์ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรไปอย่างน่าเสียดาย